ประวัติบริษัท

บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด (บลท.) หรือ Thai Copyright Collection Co, Ltd. (TCC) ซึ่งเป็นองค์กรกลางในการจัดเก็บค่าตอบแทนจากการใช้งานลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 มาตรา 15 (1) (2) และในฐานะตัวแทนเจ้าของลิขสิทธิ์จากบริษัท อาร์.เอส. โปรโมชั่น จำกัด(มหาชน) และบริษัทในเครือทั้งหมด รวมถึงผู้ประพันธ์เพลง ครูเพลง ผู้มีชื่อเสียง ศิลปินแห่งชาติ และค่ายเพลงต่างๆ  ครอบคลุมผลงานเพลงที่มีจำนวนมากกว่า 25,000 เพลง  ซึ่งทำหน้าที่จัดเก็บค่าตอบแทนจากการใช้สิทธิเผยแพร่ต่อสาธารณชน อาทิ ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทตู้หยอดเหรียญ ประเภทบูธ ประเภทห้องโถง หรือห้องวีไอพี และการแสดงสด ลานโล่ง หรือห้องโถงทั่วไปกับผู้ประกอบการธุรกิจคาราโอเกะที่ใช้งานอันมีลิขสิทธิ์เพื่อการพาณิชย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำค่าตอบแทนที่ได้รับดังกล่าวมาจัดสรรคืนให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์เพื่อให้เกิดกำลังใจและพลังที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพลงใหม่ที่ทันกับกาลสมัย และมีประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไปนอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนและช่วยเหลือทางด้านเศรษฐกิจให้แก่ครอบครัวของผู้สร้างสรรค์อีกด้วยทั้งนี้ ทางบริษัทฯยังจะต้องมีภาระหน้าที่ ในการนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม ภาษีบุคคลธรรมดา และภาษีนิติบุคคลให้แก่กรมสรรพากร เพื่อเป็นรายได้ให้รัฐบาลนำไปใช้เป็นงบประมาณในการพัฒนาประเทศต่อไป ดังนั้น เงินค่าลิขสิทธิ์ที่ผู้ประกอบการได้ชำระให้แก่บริษัทฯด้วยความยินดีนั้นจึงถือเป็นการช่วยเหลือทั้งผู้สร้างสรรค์และประเทศชาตินอกเหนือจากสิทธิที่จะได้รับในการเผยแพร่ผลงานต่อสาธารณชนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย  ทั้งนี้ บริษัท จัดเก็บลิขสิทธิ์ไทย จำกัด มีปรัชญาในการบริหารและการดำเนินงานตามหลักการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์แบบสากลที่ใช้กันในกว่า 130 ประเทศทั่วโลก ซึ่งมีความเป็นธรรมและเป็นกลางสำหรับทั้งเจ้าของลิขสิทธิ์กับผู้ใช้สิทธิ ดังต่อไปนี้

1. บริษัทฯ เป็นองค์กรกลางที่เป็นตัวแทนในการจัดเก็บค่าตอบแทนให้กับเจ้าของลิขสิทธิ์
2. มีการกำหนดอัตราค่าตอบแทนที่ให้ความเป็นธรรมแก่เจ้าของลิขสิทธิ์ทุกครั้งเมื่องานลิขสิทธิ์ถูกเผยแพร่ต่อสาธารณชน โดยคำนึงถึงคุณค่าของงานลิขสิทธิ์เป็นสำคัญ
3. อำนวยความสะดวกอย่างเป็นระบบให้แก่ผู้ใช้สิทธิเพื่อให้ผู้ใช้ในฐานะผู้ประกอบการได้รับประโยชน์สูงสุดจากการใช้งานลิขสิทธิ์เป็นการเพิ่มมูลค่าทางการค้า
4. เป็นศูนย์กลางในการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ให้แก่ผู้ประกอบการและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานทางภาครัฐในการรณรงค์ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาที่ถูกต้อง

 โดยบริษัทฯได้ดำเนินการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ในสิทธิเผยแพร่ต่อสาธารณชนอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ.2545 เป็นต้นมาและได้มีการปรับปรุงนโยบายการจัดเก็บโดยให้ผู้ประกอบการธุรกิจคาราโอเกะที่ต้องการใช้ผลงานเพลงในสังกัดทำการติดต่อกับบริษัทฯโดยตรงเพื่อสร้างความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในการชำระค่าลิขสิทธิ์ ทางบริษัทฯร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำหลายแห่ง และการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยให้ ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารศรีอยุธยา ธนาคารไทยพาณิชย์ และที่ทำการไปรษณีย์ซึ่งมีจุดบริการกว่า 3,000 แห่งทั่วประเทศ เป็นศูนย์กลางในการรับชำระค่าลิขสิทธิ์ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีทางเลือกการชำระค่าลิขสิทธิ์กับจุดบริการที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของสถานบริการทั้งนี้การปรับปรุงนโยบายดังกล่าว มีผลทำให้บริษัทฯสามารถพัฒนาระบบการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ที่มีประสิทธิภาพ จนสามารถสร้างความพอใจให้แก่ผู้ประกอบการได้เป็นอย่างดียิ่ง ประกอบกับนโยบายของบริษัทฯที่ต้องการจัดระบบและสร้างประโยชน์สูงสุดให้กับสมาชิก ซึ่งนโยบายดังกล่าวเริ่มใช้เมื่อ วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2545 และในปัจจุบันได้เพิ่มความสะดวก รวดเร็วให้กับผู้ประกอบการในการชำระค่าลิขสิทธิ์มากยิ่งขึ้นโดยการชำระผ่านเครื่องATM ของธนาคารดังกล่าวข้างต้น และการชำระด้วยบัตรเครดิตกับบริษัทฯทั้งนี้ เมื่อเทคโนโลยีเริ่มพัฒนาขึ้นประกอบกับผู้ประกอบการเริ่มมีความเข้าใจในกฎหมายลิขสิทธิ์และความสำคัญของการชำระค่าลิขสิทธิ์ให้แก่ ผู้ประกอบการธุรกิจประเภทคอมพิวเตอร์คาราโอเกะ วีซีดีคาราโอเกะ ตู้หยอดเหรียญคาราโอเกะ และซีเควสเซอร์ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 และประเภทโรงแรมสายการบิน และตู้หยอดเหรียญ(Jukebox) ที่ใช้งานลิขสิทธิ์เพื่อเผยแพร่ เนื้อร้อง/ทำนอง และ/หรือ ภาพมิวสิควีดีโอ  ที่ไม่อยู่ในรูปแบบคาราโอเกะ และมีการจัดเก็บสำหรับการแสดงสด ลานโล่งหรือห้องโถงทั่วไป รวมถึงงานดนตรีกรรมผ่านสิ่งบันทึกเสียง ตั้งแต่ปี พ.ศ.2546  ทั้งยังได้มีการจัดเก็บเพิ่มเติมสำหรับ การจัดนิทรรศการเทศกาลมหกรรม และสถานที่จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสถานที่จำหน่ายคอมพิวเตอร์ รวมถึงสถานีวิทยุฯ ซึ่งเริ่มดำเนินการจัดเก็บตั้งแต่ปีพ.ศ.2548 เป็นต้นไปซึ่งทางบริษัทฯ ได้ดำเนินการแจ้งข้อมูลให้แก่ คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้า และบริการ (กกร.) เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งผู้ประกอบการสามารถมั่นใจได้ถึงความเหมาะสมและเป็นธรรมในการจัดเก็บดังกล่าว ทั้งนี้ทางบริษัทฯยังมีนโยบายที่จะจัดเก็บเพิ่มเติมสำหรับผู้ประกอบการประเภทอื่นๆ ที่ใช้งานลิขสิทธิ์ประเภทงานดนตรีกรรมผ่านสิ่งบันทึกเสียง ด้วยซึ่งทางบริษัทฯจะดำเนินการแจ้งให้ผู้ประกอบการทุกท่านทราบเพิ่มเติมต่อไปในฐานะที่บริษัทฯถือเป็นตัวแทนในการจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์ และเป็นศูนย์กลางการป้องกันการละเมิดลิขสิทธิ์ให้กับผู้ประกอบการ รวมทั้งได้ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในยุทธศาสตร์การสร้างสรรค์ทรัพย์สินทางปัญญา และ การรณรงค์ให้ประชาชนได้ตระหนักถึงความสำคัญของทรัพย์สินทางปัญญาและดำเนินการขออนุญาตใช้สิทธิ และชำระค่าลิขสิทธิ์ในสิทธิ์เผยแพร่ต่อสาธารณชน อีกทั้งบริษัทฯยังเป็นศูนย์กลางในการร้องเรียน แจ้งเบาะแส ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบที่ใช้งานลิขสิทธิ์โดยไม่ได้รับอนุญาตจากบริษัทฯโดยเด็ดขาด